นักท่องเที่ยวไทยเฮ สปป.ลาวเปิดประเทศ เตรียมนั่งรถไฟเที่ยวจีน
ประธานหอภาคอีสานชี้ ลาวประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบเป็นข่าวดี หนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นกลับมาฟื้นตัวใหม่ เปิดประตูการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับรถไฟจีน-ลาวคึกคักเพิ่ม
นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธานหอการค้าไทย ประธานหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หอการค้าภาคอีสาน) ผู้ดูแลโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว 7 จังหวัดริมแม่น้ำโขง ตั้งแต่จังหวัดเลยถึง อุบลราชธานี เปิดเผยว่า นโยบายทางการสปป.ลาว เปิดประเทศเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2565 โดยเปิดด่านสากลทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกเพื่อทำให้เศรษฐกิจของประเทศและประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นนั้น นับเป็นข่าวดี
โดยหลายประเทศรวมถึงไทย ประกาศผ่อนปรนการเดินทางเข้า-ออกประเทศแล้ว ซึ่งในกรณีดังกล่าวถือว่าเป็นข่าวดี หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิค-19 โดยทั่วไปคลี่คลายลง ซึ่งล่าสุดทางการประเทศ สปป.ลาว ได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการ ผ่อนผันความเข้มงวดการเดินทางเข้า-ออกประเทศ แต่อย่างไรก็ตามประชาชนต้องดูแลรักษาความปลอดภัยของตัวเอง
สำหรับการเปิดประเทศ สปป.ลาว อย่างเต็มรูปแบบนั้น จะทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง การค้าขายชายแดนไทย-ลาว การใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนสองฝั่งน้ำโขงทั้ง 7 จังหวัด และของประเทศ ที่เคยมีความคึกคักมายาวนาน แต่ต้องปิดตัวเองลงชั่วคราวกว่า 2 ปีจากการระบาดเชื้อโควิด-19 เวลานี้จะกลับมาฟื้นตัว จะทำให้เศรษฐกิจ กิจการธุรกิจต่าง ๆ กลับฟื้นคืนมาอีกครั้ง โดยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยวิถีชีวิตใหม่เป็นตัวกำหนดควบคุม
นายสวาทกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในเมื่อเป็นข่าวดี ก็ต้องยอมรับว่าต้องมีข่าวไม่ดีพร้อมด้วยเช่นกัน คือการต้องที่จะกลับมาเริ่มต้นการประกอบการใด ๆ ก็จะต้องดูแลตัวเองให้มีความปลอดภัย ด้วยมาตรการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมา เช่น การฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายของทางราชการที่ตั้งไว้ ปรับปรุงสถานประกอบการต่าง ๆ ให้มีความปลอดภัย สิ่งที่จะเกิดและกลับมาฟื้นตัวใหม่อีกครั้งคือ เศรษฐกิจของประเทศและท้องถิ่น การท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่นก็จะกลับมาดีขึ้น
"โดยเฉพาะการเดินทางท่องเที่ยว การขนส่งในเส้นทางอุดรธานี-หนองคาย เชื่อมต่อไปยังโครงการรถไฟจีน-ลาว ที่ได้เปิดใช้โครงการไปแล้ว จะมีความคึกคักเพิ่มขึ้นมาก เชื่อว่าหลังจากที่ประเทศ สปป.ลาว ประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบแล้ว นักเดินทางนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย จะมีการวางแผนไปใช้บริการรถไฟจีน-ลาว เดินทางในรูปแบบต่าง ๆ กัน ซึ่งจะเกิดการสะพัดของเศรษฐกิจในระดับต่าง ๆ เห็นได้อย่างชัดเจน"
ในช่วงต้นยังเดินทางได้เฉพาะในเขตพื้นที่สปป.ลาว เนื่องจากจีนยังใช้นโยบายซีโรโควิด ยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ
ทั้งนี้ ทางการสปป.ลาว มีประกาศลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2022 (2565) มีรายละเอียดว่า
....แจ้งของสำนักนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ให้รัฐมนตรี หัวหน้าองค์การเทียบเท่า เจ้าครองนครเวียงจันทน์ และเจ้าแขวงประเทศ เกี่ยวกับมาตรการในการเดินทางเข้า-ออก สปป.ลาวและมาตาการผ่อนผัน
สำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งให้ทราบว่า มีความเห็นชอบและชี้นำของรัฐบาล แจ้งให้ทุกภาคส่วนทราบและจัดตั้งปฏิบัติดังนี้
1)เห็นดีผ่อนผันมาตรการการเข้า-ออก สปป.ลาว คือ เปิดด่านสากลทุกด่าน (19 ด่าน) สำหรับการเข้า-ออกของพลเมืองลาว คนต่างด้าว คนต่างประเทศ คนไม่มีสญชาติ
อนุญาตให้พลเมืองของบรรดาประเทศที่มีสัญญายกเว้นวีซ่า กับ สปป.ลาว แบบสองฝ่าย หรือฝ่ายเดียว สามารถเดินทางเข้า สปป.ลาว โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า
สำหรับพลเมืองของบรรดาประเทศที่ไม่มีสัญญายกเว้นวีซ่า กับ สปป.ลาว นั้น สามารถขอวีซ่าจากสถานทูต สถานกงสุล แห่ง สปป.ลาว ที่ประจำอยู่ต่างปนะเทศ หรือผ่านระบบ E-VISA หรือขอวีซ่ากับด่าน อยู่ที่ด่านสากลที่มีหน่วยงานวีซ่ากับด่าน
พลเมืองลาว คนต่างด้าว คนต่างประเทศ และคนไม่มีสัญชาติ อายุ 12 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่มีหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนครบโดสนั้น ให้มีผลตรวจด้วยเครื่องตรวจอย่างเร็ว (ATK) ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนออกจากประเทศต้นทาง เมื่อเดินทางมาถึง สปป.ลาว แล้วจะไม่มีการตรวจตัวอย่างหาเชื้อโควิค19 อยู่สนามบิน หรืออยู่ด่านชายแดนสากล ทางบก หรือทางเรืออีก
ส่วนผู้ที่มีหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วนั้น สามารถเดินทางเข้ามา สปป.ลาวได้ปกติ โดยไม่เรียกร้องให้มีการตรวจตรวจหาเชื้อโควิค19 ทั้งจากประเทศต้นทาง และเมื่อเดินทางมาถึง สปป.ลาว
สำหรับคนต่างประเทศที่เดินทางเข้ามา สปป.ลาว กรณีมีการติดเชื้อโควิค19 นั้น ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยตนเอง
2)เห็นดีด้านหลักฐานให้สามารถนำใช้ยานพาหนะประเภทต่าง ๆ เข้า-ออก สปป.ลาว เหมือนกับระยะก่อนระบาดของเชื้อโควิค-19 มอบให้กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง คำแนะนำเกี่ยวกับการนำใช้ยานพาหนะส่วนตัว โดยสารและท่องเที่ยว เข้า-ออก สปป.ลาวให้สอดคล้องกับสัญญาสองฝ่าย และหลายฝ่ายที่ สปป.ลาวเป็นภาคี
3)ให้บรรดากระทรวง องค์การเทียบเท่า และองค์การปกครองท้องถิ่นทุกขั้น ตลอดถึงผู้ประกอบการธุรกิจ เตรียมความพร้อมทุกด้าน ในการบริการต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร การบริการขนส่ง และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ ให้มีมาตรฐาน และมีคุณภาพดีกว่าเดิม โดยให้ถือว่าการบริการและการท่องเที่ยวนั้น เป็นความรับผิดชอบโดยรวมของทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อเป็นการกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจ และปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น
4)เห็นดีให้เปิดร้านบันเทิงและคาราโอเกะ แต่ให้เอาใจใส่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิค-19 อย่างเข้มงวด
5)มอบให้คณะเฉพาะกิจเพื่อป้องกันควบคุมและแก้ไขการระบาดของเชื้อโควิค-19 สมทบกับแขนงงานสาธารณสุข สืบต่อติดตามเฝ้าระวังสายพันธุ์ใหม่ เพื่อรับประกันให้แก่การป้องกัน ควบคุม ตรวจวิเคราะห์ และรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล พร้อมทั้งจัดการให้มีการฉีดวัคซีน ให้ได้ตามที่คาดหมายไว้
6)มาตรการที่ได้ระบุตั้งแต่ข้อที่1 ถึงข้อที่ 5 นั้น ให้จัดตั้งปฏิบัติ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2022 เป็นต้นไป
ดังนั้น จึงแจ้งมาเพื่อทราบและจัดตั้งปฏิบัติตามเนื้อหาในแถลงการณ์ฉบับนี้
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 9 พฤษภาคม 2565