เวียดนามเนื้อหอม นักลงทุนต่างชาติตบเท้าเข้าซื้อหุ้น
กระทรวงข้อมูลและการสื่อสารเวียดนาม เผยว่า หลังจากที่ทดลองใช้บริการ Mobile Money เป็นระยะเวลา 4 เดือน พบว่า มีจำนวนผู้ใช้บริการเกือบ 1.1 ล้านราย แบ่งเป็นลูกค้าจากพื้นที่ชนบท พื้นที่ห่างไกล ภูเขาสูง ชายแดน และเกาะ จํานวน 6.59 แสนราย โดยมีจํานวนธุรกรรม 8.4 ล้านรายการ มูลค่ารวม 3.71 แสนล้านด่ง (16.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากสถิติพบว่า บริษัท Vietel เป็นบริษัทที่มีจํานวนผู้ใช้บริการมากที่สุด ตามด้วย บริษัท VNPT ทั้งนี้ รัฐบาลเวียดนาม ได้ออกกฤษฎีกาใหม่เกี่ยวกับโครงการพัฒนาการชําระเงินแบบไร้เงินสดสําหรับช่วงปี 2564-2568 เพื่อช่วยลดช่องว่างทางดิจิทัลระหว่างพื้นที่เมืองและชนบท รวมถึงช่วยฟื้นตัว และพัฒนาเศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และทําให้การทําธุรกรรมมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้านการขนส่ง หน่วยงาน Quang Nam Industrial Zone Authority (QNIZA) อยู่ระหว่างเปิดรับการลงทุนในท่าเรือและบริการด้านโลจิสติกส์ในจังหวัดกว่างนาม โดยให้ความสําคัญกับการสร้างเส้นทางเดินเรือสําหรับเรือขนาด 50,000 DWT โดยคาดว่าจะเริ่มดําเนินการได้ในปี 2566 และแล้วเสร็จในปี 2569 นอกจากนี้ จังหวัดยังแสวงหานักลงทุนสําหรับโครงการขยายท่าเรือ Tam Hiep Tam Hoa และ Tam Giang และพัฒนาท่าเรือ Chu Lai ภายในปี 2573 การลงทุนในโครงการดังกล่าวจะช่วยอํานวยความสะดวกการขนส่งสินค้าเกษตรไปยังต่างประเทศ เสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดกว่างนามกับจังหวัดกวางหงายและนครดานัง และช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการด้านการขนส่งสินค้า นอกจากนี้ จังหวัดมีแผนจัดตั้งศูนย์วิศวกรรมแห่งชาติในเขตเศรษฐกิจเปิด Chu Lai และพัฒนาเขตอุตสาหกรรมอื่น ๆ ให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
จากรายงานของคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ พบว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2565 นครโฮจิมินห์มีธุรกรรมเกี่ยวกับการเข้าซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) โดยนักลงทุนต่างชาติมากที่สุดในเวียดนาม คิดเป็นร้อยละ 70.4 ของทั้งประเทศ โดยมีนักลงทุนต่างชาติที่ร่วมลงทุนซื้อหุ้น และซื้อหุ้นคืนจากกิจการ จํานวน 722 ราย มูลค่ารวมกว่า 453 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 32 ในเชิงปริมาณ และร้อยละ 20 ในเชิงมูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 นอกจากนี้ เวียดนาม มีนักลงทุนต่างชาติที่ร่วมลงทุนและซื้อหุ้น จํานวน 1,026 ราย มูลค่ารวมเกือบ 1.83 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อนึ่ง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พบว่า นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในนครโฮจิมินห์ ได้เลือกรูปแบบการลงทุนเข้าซื้อกิจการหรือซื้อหุ้นของกิจการภายในประเทศมากกว่ารูปแบบ FDI
จากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจข้างต้น จะเห็นได้ว่าขณะนี้เวียดนามเน้นเปิดโอกาสการลงทุนให้แก่นักธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านการขนส่งทางเรือ ซึ่งนับว่าเป็นช่องทางที่ดีที่นักลงทุนไทยอาจพิจารณาเข้าร่วมในโครงการดังกล่าว เพื่อต่อยอดการขนส่งสินค้าจากไทยไปยังจังหวัดอื่น ๆ ในเวียดนาม รวมถึงการส่งออกไปสู่ตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้แก่การส่งออกไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าทางการเกษตร
ที่มา Globthailand
วันที่ 26 พฤษภาคม 2565