รู้จัก "โนวาแวกซ์" วัคซีนโควิดที่ FDA อนุมัติเป็นทางเลือกใหม่

สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) รับรองวัคซีนป้องกันโควิดของบริษัทเวชภัณฑ์ โนวาแวกซ์ (Novavax) เป็น “ทางเลือกล่าสุด” สำหรับชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่อายุเกิน 18 ปี วัคซีนใหม่นี้มีประสิทธิผลมากกว่า 90% และยังมีประสิทธิผลสูงในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ด้วย
 
วัคซีน ‘โนวาแวกซ์’ (Novavax) ซึ่งพัฒนาและผลิตโดย บริษัท ไบโอเทค โนวาแวกซ์ ในมลรัฐแมรีแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นวัคซีนที่ผลิตจากสารโปรตีนของไวรัส ซึ่งถือเป็นวิธีดั้งเดิมเมื่อเทียบกับวัคซีนโควิด 3 ยี่ห้อที่ผ่านการรับรองให้ใช้ในสหรัฐอเมริกาไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งได้แก่
 
* วัคซีนของบริษัท โมเดอร์นา (Moderna) และ ไฟเซอร์ (Pfizer) ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA
* และวัคซีนของบริษัท จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) ที่เป็นวัคซีนแบบ Adenovirus-based หรือ ใช้ไวรัสเป็นพาหะ
 
ปัจจุบัน เกือบ ๆ 25% ของประชากรอเมริกันวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐ ยังคงไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดแม้แต่เข็มแรกเนื่องจากพวกเขายังมีความลังเล แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า น่าจะมีจำนวนไม่น้อยที่ยินยอมฉีดวัคซีนของโนวาแวกซ์ที่ใช้สารโปรตีนในการผลิต เพราะเชื่อว่า วัคซีนประเภทนี้อาจมีความปลอดภัยมากกว่าสำหรับพวกเขา
 
ทั้งนี้ ทางโนวาแวกซ์ได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนเข็มบูสเตอร์ให้ทาง FDA พิจารณาอนุมัติในทันที ทั้งยังส่งข้อมูลการฉีดวัคซีนโนวาแวกซ์ผสมสูตรกับวัคซีนแบบ mRNA ด้วย ทางบริษัทเชื่อว่า วัคซีนโนวาแวกซ์จะมีส่วนสำคัญในการกระจายการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ที่ทำให้เกิดการระบาดใหญ่ระลอกใหม่ในหลายพื้นที่ ณ ขณะนี้
 
อย่างไรก็ตาม วัคซีนของโนวาแวกซ์ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา จะเริ่มฉีดได้หลังจากที่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือ CDC ให้คำแนะนำก่อนว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนนี้อย่างไร ซึ่งคาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ก่อนที่ร้านขายยาและผู้ให้บริการด้านสุขภาพรายอื่น ๆ จะเริ่มนำวัคซีนไปฉีดให้กับประชาชนได้
 
เผยผลทดสอบ มีประสิทธิผลเกิน 90% :
 
ผลการทดลองวัคซีนโนวาแวกซ์ เฟส 3 ซึ่งทดลองกับมนุษย์ แสดงให้เห็นว่าวัคซีนของบริษัทมีประสิทธิผลมากกว่า 90% ในการป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัสที่เป็นสาเหตุของโควิด-19 และมีประสิทธิผลสูงในการป้องกันเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ด้วย การทดสอบดังกล่าวจัดทำในประเทศสหรัฐและเม็กซิโก โดยใช้กลุ่มตัวอย่างเกือบ 30,000 คน เน้นการกระจายความหลากหลายทางประชากรศาสตร์ไปยังกลุ่มต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุด
 
วัคซีนที่ผลิตจากสารโปรตีนของไวรัสแบบที่โนวาแวกซ์ใช้นี้ ถือเป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้มานานแล้วเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี รวมทั้งโรคอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างกับเทคโนโลยี mRNA ที่เป็นเทคโนโลยีแบบใหม่
 
ผลการทดลองวัคซีนของโนวาแวกซ์ พบว่ามีประสิทธิผลสูงในการป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัส และลดความเสี่ยงของการเกิดอาการรุนแรง นอกจากนี้ โนวาแวกซ์ยังแสดงผลการทดสอบในระดับน่าพอใจในการป้องกันเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธ์โอมิครอนกลายพันธุ์ด้วย
 
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานกำกับดูแลของยุโรปได้รับรองให้ใช้วัคซีนของโนวาแวกซ์กับเด็กอายุ 12 ปีและมากกว่า ขณะที่หลายประเทศอนุมัติวัคซีนบูสเตอร์ของบริษัทนี้แล้วเช่นกัน
 
ที่ผ่านมา โนวาแวกซ์ประสบปัญหาความล่าช้าในการผลิต แต่ทางบริษัทยืนยันว่าสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้แล้ว และพร้อมผลิตให้ทันความต้องการและคำสั่งซื้อของทุกประเทศ โดยขณะนี้รัฐบาลสหรัฐได้สั่งซื้อวัคซีนของโนวาแวกซ์ไปแล้ว 3.2 ล้านโดส
 
แม้ปัจจุบัน ปริมาณวัคซีนโควิดในสหรัฐ กำลังเริ่มล้นเกินความต้องการของประชาชน แต่คาดว่าวัคซีนของโนวาแวกซ์จะมีบทบาทสำคัญต่อประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกที่ต่างต้องการแจกจ่ายวัคซีนให้ประชาชนอย่างครอบคลุมและทั่วถึง เนื่องจากวัคซีนของโนวาแวกซ์นั้นสามารถจัดเก็บและขนส่งได้ง่าย
 
นายสแตนลีย์ เอิร์ค ซีอีโอของโนวาแวกซ์ เปิดเผยว่า เป้าหมายของบริษัท คือการส่งวัคซีนโควิดชุดแรก ๆ ไปยังประเทศรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางก่อน
 
ในแง่การผลิต บริษัทตั้งเป้าว่าจะสามารถผลิตได้ราวเดือนละ 100 ล้านโดสภายในเดือนกันยายน และจากนั้นจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็นเดือนละ 150 ล้านโดสภายในเดือนธันวาคมปีนี้
 
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 16 กรกฏาคม 2565  

@Admin TVBC

สนใจสมัครสมาชิกหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายเลขานุการฯ
โทร: 02-018-6888 ต่อ 4340
Email: tvbc.secretariat@gmail.com

:)