ล็อกดาวน์ "เสิ่นเจิ้น" กระทบประชาชน 18 ล้าน
จีนสั่งล็อกดาวน์เสิ่นเจิ้น ศูนย์กลางทางเทคโนโลยีของประเทศ เพื่อเริ่มการทดสอบหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองที่มีประชากรราว 18 ล้านคนในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ซึ่งเป็นการติดเชื้อในท้องถิ่น 87 คน
คำสั่งล็อกดาวน์ดังกล่าวยังทำให้มีการระงับการให้บริการรถประจำทางและรถไฟใต้ดิน โดยมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 2 วันในช่วงสุดสัปดาห์ โดยผู้ที่อาศัยอยู่ใน 6 เขตหลักถูกระบุว่าเป็น “พื้นที่เสี่ยงสูง” จะต้องล็อกดาวน์เป็นเวลา 1 สัปดาห์ แต่อาจมีการขยายเวลาหากพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเสิ่นเจิ้นเรียกร้องให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านพักให้มากที่สุด หลีกเลี่ยงการออกไปชุมนุม แต่ไม่ได้มีการระบุตัวเลขของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งล็อกดาวน์เมืองครั้งล่าสุดนี้อย่างชัดเจน
สมาชิก 1 คนจากหนึ่งครอบครัวจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านของพวกเขาได้ 1 ครั้งในช่วงของการล็อกดาวน์ 2 วัน เพื่อซื้ออาหาร ยารักษาโรค และข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น
หน่วยงานสาธารณสุขของเสิ่นเจิ้นระบุว่า สื่อตีความการประกาศมาตรการใหม่เกี่ยวกับโควิด-19 ด้วยการ “ตีความผิด” ว่าหมายถึงการปิดเมือง พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนทำงานและใช้ชีวิตโดยปราศจากความกังวล
อย่างไรก็ดีชาวเมืองเสิ่นเจิ้นวิพากษ์วิจารณ์ว่า ความหวาดกลัวต่อการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ และการทำงานที่ต้องหยุดชะงักอย่างต่อเนื่องเลวร้ายยิ่งกว่าไวรัส ขณะที่มาตรการใหม่ดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึงความยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างเข้มงวดของจีนอีกด้วย
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 4 กันยายน 2565