บ.ชั้นนำโลกทุ่มงบ-กำไรหนุนสิ่งแวดล้อม-ลดคาร์บอน

บริษัทชั้นนำโลกเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อบรรเทาปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม "พาทาโกเนีย" มอบ "หุ้น-กำไร" ให้องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมหมดหน้าตัก ขณะ "ซัมซุง" ทุ่มงบวิจัย-พัฒนา 5,000 ล้านดอลล์ ลดคาร์บอนเหลือศูนย์
 
“อีวอง ชูนาร์ด” ผู้ก่อตั้งบริษัทเสื้อผ้าแฟชัน พาทาโกเนีย พร้อมทั้งภรรยาและลูกทั้งสองคน เตรียมขายหุ้นและบริจาคผลกำไรทั้งหมดแก่องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมและโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยปกป้องสัตว์ป่าและความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามรับมือวิกฤตต่างๆที่เป็นผลพวงจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
 
นิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า บริษัทพาทาโกเนีย มีมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์ และหุ้นของบริษัทจะตกเป็นขององค์กรด้านสภาพอากาศและองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่เรียกว่า ‘Patagonia Purpose Trust’ และ‘Holdfast Collective’
 
โดยบริษัทในรูปทรัสต์ ถือหุ้นแบบมีสิทธิออกเสียง (voting stock) 2% และใช้สร้างโครงสร้างทางกฎหมายอย่างถาวรมากขึ้นเพื่อเป้าหมายและผลประโยชน์ของพาทาโกเนีย ซึ่งจะดูแลโดยสมาชิกในครอบครัวและที่ปรึกษาใกล้ชิด ส่วนบริษัท Holdfast Collective ถือหุ้นพาทาโกเนียแบบไม่มีสิทธิออกเสียง (non-voting stock) 98%
 
นอกจากนี้ เงินสดในรูปสกุลดอลลาร์ทั้งหมดที่ไม่ได้ลงทุนในพาทาโกเนีย จะนำไปบริจาคเป็นเงินปันผลเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าจะบริจาคได้100 ล้านดอลลาร์ต่อปี ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัท
 
ทั้งนี้ บริษัทพาทาโกเนีย เป็นบริษัทจำหน่ายเครื่องแต่งกายทั้งแบบใหม่และแบบมือสอง อุปกรณ์สำหรับกิจกรรมนอกบ้าน เช่น การตั้งแคมป์การตกปลาและการปีนเขา รวมถึงจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตจากแหล่งทรัพยากรที่ยั่งยืน
 
ขณะที่บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ผลิตชิปและโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดโลก ประกาศทุ่มทุน 7,000 ล้านล้านวอน (5,020 ล้านดอลลาร์) ภายในปี 2573 เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ให้ได้ ภายในปี 2593
 
“คิม ซูจิน” ประธานฝ่ายกลยุทธ์ ESG หรือฝ่ายพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนของซัมซุง เปิดเผยว่า บริษัทจะลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก ดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างการผลิตสินค้าและเพิ่มการรีไซเคิลวัสดุให้มากขึ้น เช่น แร่ลิเทียมและพลาสติก
 
ขณะนี้ ซัมซุงกำลังเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์จาก 50 ประเทศและตั้งเป้าเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้ได้ถึง 180 ประเทศพยายามนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ให้ได้ 50% ของพลาสติกที่ใช้ไปทั้งหมด ภายในปี 2573 และใช้พลาสติกซ้ำ 100% ภายในปี 2593 รวมทั้งเพิ่มการผลิตชิปและอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน
 
“แม้ต้นทุนสูงขึ้น แต่เราพยามสร้างโอกาสที่ดีเพื่อธุรกิจเราเป็นบริษัทเทคโนโลยี ดังนั้น เราจะมีส่วนร่วมเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศให้ดีขึ้น ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี"ซูจิน กล่าว
นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้เข้าร่วมโครงการ RE100 กับบริษัทระดับโลก มีเป้าหมายใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในการดำเนินงาน หลังจากแอ๊ปเปิ้ล ทีเอสเอ็มซี และอินเทลเข้าร่วมก่อนหน้า
 
ทั้งนี้ เกาหลีใต้กำหนดเป้าหมายปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ซึ่งนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า เป็นความท้าทายของประเทศที่มีอุตสาหกรรมหนัก เช่นอุตสาหกรรมเหล็กกล้าและการต่อเรือ เนื่องจากข้อมูลกระทรวงอุตสาหกรรมระบุว่าการผลิตไฟฟ้าในประเทศ ต้องพึ่งพาพลังงานถ่านหินและก๊าซธรรมชาติมากกว่า 60% ขณะที่พลังงานหมุนเวียนใช้เพียง 6% เท่านั้น
 
ที่ผ่านมา บริษัทชื่อดังอย่าง อาลิบาบา ที่เติบโตจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างรวดเร็ว มีบริษัทในเครือจำนวนมาก และจ้างพนักงานกว่า 2.5 แสนคน ก็หันมาดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืน หรือยึดวิถี ESG เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อทุกภาคส่วน
 
นอกจากนี้ กรีนพีซ องค์กรการเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศ ประกาศให้อาลีบาบา เป็นผู้นำในกลุ่มแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีนที่ต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และเป็นบริษัทเดียวที่กำหนดระยะเวลาที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน สำหรับระบบนิเวศทางธุรกิจทั้งหมด
 
นักลงทุนเริ่มมองว่า ESG เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวิเคราะห์ว่า บริษัทที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีโอกาสในการเติบโต ส่งผลให้หลายองค์กรนำแนวทางไปปฏิบัติ เกิดเป็นสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและการจัดการกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศขององค์กรนั้นๆได้อย่างชัดเจน
 
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 16 กันยายน 2565     

@Admin TVBC

สนใจสมัครสมาชิกหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายเลขานุการฯ
โทร: 02-018-6888 ต่อ 4340
Email: tvbc.secretariat@gmail.com

:)