เที่ยวไทยรอรับจีน 4 ล้านคน ลุ้น สีจิ้นผิง เปิดประเทศเพิ่มไฟลต์
ตลาดท่องเที่ยวลุ้นจีนเปิดประเทศต้นปี 2566 หนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลกกลับมาสู่ภาวะปกติ ชี้จีนตลาดใหญ่ ใช้จ่ายมากสุดในโลก "พิพัฒน์ รัชกิจประการ" รมว.การท่องเที่ยวฯ เผยรอความชัดเจน หลัง "สี จิ้นผิง" ร่วมประชุมเอเปคเดือน พ.ย.นี้
ททท.สั่ง 5 สำนักงานในจีนติดตามใกล้ชิด พร้อมโหมโปรโมชั่นการตลาดทันทีที่จีนประกาศเปิดประเทศ ตั้งเป้าปีหน้านักท่องเที่ยวจีนทะลุ 4 ล้านคน สมาคม ATTA ชี้สัญญาณเปิดประเทศดีต่อเนื่อง ตั้งเป้าความหวังต้นปีหน้า ฟาก CAAT แย้มรัฐบาลจีนทยอยเพิ่มเที่ยวบินระหว่าง 2 ประเทศ ด้านเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยยันหลังโควิด จีนยังเป็นตลาดใหญ่ของไทย
แหล่งข่าวจากวงการธุรกิจท่องเที่ยวเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป ทุกประเทศทั่วโลกได้ประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบแล้ว โดยกลุ่มประเทศล่าสุดที่ประกาศและเป็นตลาดสำคัญของประเทศไทย คือ เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น ขณะนี้เหลือเพียง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพียงประเทศเดียวที่ยังคงนโยบายควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือ Zero-COVID Policy และยังล็อกดาวน์และห้ามประชาชนทั่วไปเดินทางเข้า-ออกนอกประเทศ รวมถึงการเดินทางระหว่างเมืองภายในประเทศบางส่วนด้วย
นักท่องเที่ยวจีน No.1 โลก :
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย จะยังไม่กลับมาสู่ภาวะปกติได้ หากจีนยังคงนโยบาย Zero-COVID Policy ต่อไป เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีการใช้จ่ายสูงที่สุดในโลก โดยในปี 2562 (ก่อนโควิด-19) มีคนจีนออกเดินทางไปทั่วโลกกว่า 150 ล้านคน มีมูลค่าการใช้จ่ายสูงถึงราว 8-9 ล้านล้านบาท จากการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวทั่วโลกที่มีมูลค่าราว 50 ล้านล้านบาท
โดยในจำนวนนี้เข้าประเทศไทยจำนวน 11 ล้านคน จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน ใช้จ่ายในประเทศไทยมากกว่า 5.3 แสนล้านบาท หรือประมาณ 28% ของรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีมูลค่ารวม 1.9 ล้านล้านบาท
“ตอนนี้ทุกส่วนต่างรอคอยและลุ้นให้รัฐบาลจีนเปิดประเทศ เนื่องจากจีนเป็นตลาดสำคัญที่สุดของการท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงไทย ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่ารัฐบาลจีนน่าจะมีความชัดเจนเรื่องเปิดประเทศมากขึ้น หลังการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือน ต.ค.นี้”
ลุ้นหลังประชุมเอเปคกลาง พ.ย. :
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ประเด็นการเปิดประเทศของจีนนั้นมองว่า หลังการประชุมเอเปค (APEC 2022) ที่จะจัดขึ้นในช่วงกลางเดือน พ.ย.นี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจากรายงานระบุว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดี สาธารณรัฐประชาชนจีน จะเดินทางมาร่วมประชุมด้วย
“ที่ผ่านมารัฐบาลไทยมีการประสานกับทางการจีนผ่านช่องทางทางการทูตอยู่เป็นระยะ ๆ แต่ถ้าจะให้ชัดเจนมากกว่านี้ต้องรอการเจรจาระหว่างทั้ง 2 ประเทศในช่วงประชุมเอเปค ถ้าจีนเปิดประเทศทันช่วงปลายปีนี้จะช่วยเร่งตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือนธันวาคมให้สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้”
นายพิพัฒน์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลจีน โดยสำนักงานการบินพลเรือนจีน (CAAC) ได้ทยอยผ่อนคลายมาตรการและเพิ่มจำนวนเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออก ระหว่างจีนกับไทยเป็นระยะเช่นกัน ปัจจุบันทำการบินอยู่ที่จำนวน 15 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเชื่อว่าหลังการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ในกลางเดือน ต.ค.นี้ น่าจะเห็นทิศทางบวกในการเปิดประเทศจีน เพราะจากกระแสข่าวพบว่าประชาชนส่วนหนึ่งต้องการใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น
ทยอยเปิดมณฑลตอนใต้ก่อน :
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงในเรื่องนี้ว่า ททท.มีความคาดหวังว่าหลังจากประชุมผู้นำเอเปคที่ไทย ในกลางเดือน พ.ย.นี้ จีนจะเปิดประเทศมากขึ้น เนื่องจากเห็นสัญญาณที่ดีของการตอบรับเข้าร่วมประชุมของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดี แม้ว่าจะเป็นการตอบรับด้วยวาจาก็ตาม
“เรามองว่าถ้าผู้นำออกนอกประเทศได้ น่าจะเป็นสัญญาณบวกที่จะส่งผลให้ตลาดจีนเปิดมากขึ้น หากจีนจะเปิดในปลายไตรมาส 4 ปีนี้ หรือต้นไตรมาส 1 ปีหน้า นั้นน่าจะยังไม่เปิดพร้อมกันทั่วประเทศ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว ฯลฯ แต่อาจทยอยเปิดเป็นสเต็ป เป็นบางพื้นที่ เช่น มณฑลยูนนาน และมณฑลอื่น ๆ ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเชื่อมโยงกับฮ่องกง เพราะขณะนี้ฮ่องกง เสิ่นเจิ้น เริ่มผ่อนคลายมากแล้ว”
ททท.พร้อมอัดแคมเปญรับ :
นายธเนศวร์กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาสำนักงาน ททท.ทั้ง 5 แห่งในจีน ทำการติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าการเปิดประเทศของจีนอย่างใกล้ชิด และรายงานว่า จีนส่งสัญญาณมาตลอดว่าท่าทีของรัฐบาลจีนได้ทยอยผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น เพียงแต่ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นสไตล์ของรัฐบาลจีน
อาทิ จำนวนเที่ยวบินเข้า-ออกระหว่าง 2 ประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากไม่ถึง 10 เที่ยวต่อสัปดาห์ เมื่อ 3 เดือนก่อน มาอยู่ที่เกือบ 20 เที่ยวบินในขณะนี้ หรือการผ่อนคลายมาตรการให้กลุ่มนักธุรกิจ นักเรียน นักศึกษา เดินทางระหว่าง 2 ประเทศได้ เป็นต้น
“ตอนนี้เราสั่งให้ทุกสำนักงานในจีนเตรียมการขายทันที เมื่อทางการจีนส่งสัญญาณชัดเจน ปัจจุบันทุกสำนักงานก็เริ่มมีการจับมือกับพันธมิตร ทั้งสายการบิน บริษัทนำเที่ยว และโอทีเอ (online travel agents : OTA) รายใหญ่ อาทิ อาลีบาบา ฯลฯ รวมถึงมีการคุยกันแผนเชิงลึกแล้ว จีนประกาศเปิดประเทศเมื่อไหร่ เราพร้อมทำการส่งเสริมการขายทันที” นายธเนศวร์กล่าว
ปี 2566 ตั้งเป้าจีนเที่ยวไทย 4 ล้าน :
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้สัมภาษณ์สื่อก่อนหน้านี้ว่า ในส่วนของตลาดจีนที่ยังคงนโยบายควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มข้นนั้น ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น จากการผ่อนคลายในเรื่องมาตรการการกักตัว และมาตรการทางการบิน
จึงเชื่อว่าประเทศไทยจะมีโอกาสเปิดเที่ยวบินระหว่าง 2 ประเทศได้เพิ่มมากขึ้น โดยสำนักงาน ททท.ในประเทศจีนจะมีการหารือกันในบางมณฑลถึงความร่วมมือการเดินทางและความปลอดภัย โดยจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาเยือนไทยจำนวน 4 ล้านคนในปี 2566
ATTA หวังต้นปีหน้า :
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) หรือสมาคมทัวร์อินบาวนด์ (ท่องเที่ยวขาเข้า) เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับทางเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ล่าสุดพบว่าสัญญาณการเปิดประเทศของจีนมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สมาคมมองว่าเร็วที่สุด น่าจะเป็นช่วงปลายปี 2565 นี้ แต่ก็ยังไม่กล้าคาดหวังนัก สมาคมจึงตั้งความหวังไว้ที่ต้นปี 2566 เนื่องจากปีนี้รัฐบาลจีนยังคงนโยบาย Zero-COVID Policy อย่างเข้มแข็ง
“จากการพูดคุยกันเขาบอกว่า ตอนนี้สถานการณ์การปิดประเทศยาวนานมาเกือบ 3 ปีแล้ว และควรจะเปิดได้แล้ว และหลายหน่วยงานก็อยากให้เปิด อย่างไรก็ตาม ในมุมของตนคิดว่ารัฐบาลจีนน่าจะเปิดประเทศเชื่อมโยงกับทาง สปป.ลาว ก่อนประเทศไทย เพื่อรองรับการให้บริการรถไฟจีน-ลาว ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว”
ทยอยเพิ่มเที่ยวบิน 2 ประเทศ :
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) รายงานว่า ปัจจุบันรัฐบาลจีนยังคงมาตรการเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเข้มงวด แต่ก็ได้ผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศกับไทย ด้วยการเพิ่มเที่ยวบินโดยสารจากไทยเข้าจีน จาก 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ในเดือนสิงหาคม 2565 เป็น 15 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเที่ยวบินจากจีนเข้าไทยเป็น 15 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เช่นกัน ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
เพื่อรองรับความต้องการในการเดินทางที่มีความสำคัญ เช่น การเดินทางด้านธุรกิจ การเดินทางกลับภูมิลำเนา และกรณีที่มีความจำเป็นอื่น ๆ ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ โดยประเทศไทยอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะสามารถเป็นจุดขนส่งผู้โดยสารเข้าออกประเทศจีน เมื่อจีนพิจารณาเปิดให้ทำการบินเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันจีนยังไม่อนุญาตให้เพิ่มเที่ยวบินไปยังบางเมือง ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว เนื่องจากจะเกินขีดความสามารถของสนามบินในเมืองดังกล่าว และให้เปิดทำการบินในเมืองอื่น ๆ แทน
ยันจีนเป็นตลาดใหญ่ของไทย :
นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวเนื่องในโอกาสวันชาติจีน 1 ต.ค. ถึงคำถามว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาไทยได้เมื่อใดว่า ก่อนเกิดโรคระบาด จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาเยือนไทยทะลุ 10 ล้านคนต่อปี มีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนไทย ประเทศไทยมีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวมากมาย
และชาวจีนจำนวนมากอยากยกให้ไทยเป็นตัวเลือกแรกสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ ความเงียบสงบของเชียงใหม่ ฟ้าใส และฟ้าครามที่ภูเก็ต ล้วนได้สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้นักท่องเที่ยวชาวจีน
“โรคระบาดได้จำกัดการเดินทางของนักท่องเที่ยว แต่ไม่สามารถยับยั้งความปรารถนาของผู้คนที่จะเดินทางมาไทยได้ ขณะที่เรามีความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดที่ดียิ่งขึ้น จะทำให้การเข้าออกประเทศของผู้คนราบรื่นขึ้นเรื่อย ๆ ผมเชื่อว่า จีนจะยังคงเป็นประเทศต้นทางของนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลังโควิด ขอให้เราตั้งตารอและทำงานอย่างหนักเพื่อให้วันนั้นมาถึงในเร็ววัน” เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยกล่าว
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 2 ตุลาคม 2565